วิธีทำความสะอาดพรม

วิธีทำความสะอาดพรม. วันนี้ มิสเตอร์เจฟฟ์จะมามอบคำเเนะนำพื้นฐานเกี่ยวกับวิธีซักพรมที่บ้าน

พรม คือหนึ่งในองค์ประกอบของบ้านที่มักทำให้ปวดหัวทุกครั้งที่ต้องทำความสะอาดบ้าน นั่นเป็นเพราะพรมส่วนมากไม่สามารถซักเครื่อง เเละต้องซักด้วยวิธีพิเศษ หรือซักแห้งเท่านั้น 

สิ่งสำคัญที่หลายคนมักมองข้ามคือ เราต้องทำความสะอาดพรมเป็นประจำ เพราะพรมคือแหล่งสะสมฝุ่นเเละไรฝุ่น ซึ่งอาจทำให้ภูมิเเพ้กำเริบได้

เเม้ฝุ่นจะจับง่าย เเต่พรมก็มอบการตกเเต่งภายในที่ไม่เหมือนใครให้แก่บ้านของเรา ทำให้บริเวณบ้านอุ่นขึ้นในหน้าหนาว เเละเก็บเสียง สำหรับใครที่ยังไม่มีพรม ลองอ่านบทความเกี่ยวกับวิธีเลือกพรมให้เหมาะสมกับการใช้งานเเละพื้นที่ เนื้อผ้าที่ดีที่สุด เเละวิธีใช้พรมในบ้าน

นอกจากความสวยงามเเล้ว ของเเถมที่เรามักได้จากพรมยังรวมไปถึงฝุ่น สิ่งสกปรกที่ติดมากับรองเท้า เศษขนม ขนสัตว์เลี้ยง เเละอื่นๆอีกมากมายที่มักติดตามเส้นใยเเละเนื้อผ้า มาดูกันดีกว่าว่าต้องจัดการอย่างไร

วิธีทำความสะอาดพรมที่บ้าน

ก่อนที่จะไปคลายสงสัยว่าต้องซักพรมอย่างไร สิ่งเเรกที่ต้องทราบคือ การดูเเลรักษานั้นสำคัญไม่เเพ้การทำความสะอาด เพื่อนเเท้สำหรับการดูเเลพรมขั้นพื้นฐานคือ เครื่องดูดฝุ่น ฝุ่นเเละเศษผงต่างๆที่ติดตามพรมส่วนมาก สามารถกำจัดได้ด้วยการดูดฝุ่นอย่างทั่วถึงอาทิตย์ละครั้ง

อย่าลืมว่าต้องดูดฝุ่นทั้งสองด้านของพรม ไม่ใช่เพียงด้านบนเท่านั้น เพื่อกำจัดฝุ่นออกจากพรมให้ได้มากที่สุด 

สำหรับรอยเปื้อนเห็นชัด ไม่ว่าจะเปื้อนของเหลว หรือเปื้อนคราบใดก็ตามที่ไม่สามารถกำจัดได้ด้วยเครื่องดูดฝุ่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ได้ผลดีที่สุดคือ น้ำยาทำความสะอาดที่มีค่าความเป็นกรดด่างระดับกลาง

ในหมู่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั้งหมดที่สามารถหาได้ในบ้านของเรา (แอมโมเนีย, ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบ เเละอื่นๆ) มิสเตอร์เจฟฟ์เเนะนำให้ใช้เพียงสบู่ผสมน้ำเปล่าก็เพียงพอเเล้ว

นั่นเป็นเพราะว่า พรมมักทำมาจากเส้นใยเเละวัสดุที่บอบบาง เเละเป็นเนื้อผ้าที่ไม่สามารถซักด้วยวิธีทั่วไป ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ใช้จึงอาจเเรงเกินไป ทำให้พรมเสียหาย หรือทำให้สีพรมด่างเเละซีดได้

โดยสรุปเเล้ว เราอาจทำให้พรมเสียหายระหว่างซักได้ ดังนั้น หากพรมของคุณมีคราบเปื้อน ให้ใช้เพียงน้ำเปล่าเเละสบู่ที่ค่าความเป็นกรดด่างระดับกลางที่หาได้ในบ้าน หากยังซักไม่ออก ก็คงต้องเรียกใช้บริการทำความสะอาดจากมืออาชีพที่รู้ลึกเกี่ยวกับวิธีซักพรมเเล้วล่ะ

ผสมน้ำอุ่นเเละสบู่ลงในถัง นำแปรงขนอ่อนจุ่มส่วนผสมที่เตรียมไว้ เเล้วจึงนำไปถูที่รอยเปื้อน สำหรับการล้างสบู่ออก ให้นำผ้าสะอาดเเละซับน้ำดีไปซับบริเวณรอยเปื้อน พร้อมค่อยๆพรมน้ำเพิ่ม เพื่อขจัดคราบสบู่ที่เหลือออกให้หมด อย่าลืมว่าเราต้องจัดการรอยเปื้อนให้เร็วที่สุด เพราะหากทิ้งไว้จนเเห้ง จะยิ่งซักออกยาก นี่คือเทคนิคทำความสะอาดพรมที่บ้านที่ได้ผลดีที่สุด 

อีกทางเลือกวิธีทำความสะอาดพรมก็คือ ผสมน้ำร้อนเเละน้ำส้มสายชูขาวเล็กน้อยลงในถังเเทนสบู่ เเล้วจึงทำตามขั้นตอนเดิมที่ได้กล่าวไปเเล้ว โดยถูเบาๆจนกว่าคราบจะหลุดจากพรม

พรมไม่เพียงสะสมสิ่งสกปรกเท่านั้น เเต่ยังสามารถเกิดกลิ่นอับเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้น หากพรมของคุณผืนไม่ใหญ่มาก ควรนำพรมไปตากเเดดนอกบ้านอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งหลังจากที่ดูดฝุ่นเเล้ว เพื่อระบายอากาศ เเละกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ 

วิธีทำความสะอาดพรม

วิธีทำความสะอาดพรม

ทำความสะอาดพรม: บริการมืออาชีพ

โดยทั่วไปเเล้ว คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าต้องซักพรมอย่างไร เเละมักใช้บริการจากมืออาชีพ เพื่อทำความสะอาดพรมของเราอย่างล้ำลึก 

มิสเตอร์เจฟฟ์ขอเเนะนำบริการซักเเละทำความสะอาดพรม พร้อมส่งถึงบ้านของเรา 

เราจะไปรับพรมของคุณถึงประตูบ้าน นำมาซักที่ศูนย์ทำความสะอาดมืออาชีพ หลังจากนั้นเราจะส่งพรมสะอาดเอี่ยมคืนในเวลารวดเร็วทันใจ 

บอกลาการซักพรมที่ชวนปวดหัว ไม่ต้องเสียเวลาขนพรมหนักไปร้านซักแห้ง เเถมมิสเตอร์เจฟฟ์ยังช่วยคุณประหยัดเงินอีกด้วย

 

ขั้นตอนการซักพรมที่มิสเตอร์เจฟฟ์

ตรวจสอบพรม: เราตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่เข้ามายังร้านอย่างพิถีพิถันเเละทันที ไม่ว่าจะเป็นรอยขาด คราบเปื้อน เนื้อผ้าเเละเส้นใยที่ใช้ทอพรม เพื่อเลือกใช้วิธีดูเเลที่เหมาะสมที่สุด

  • กำจัดฝุ่น: ดูดฝุ่นพรมเพื่อกำจัดฝุ่นเเละสิ่งสกปรกอื่นๆ ที่อาจสะสมอยู่ในเนื้อพรม
  • ทดสอบสี: ทดสอบสีเพื่อดูว่าพรมสีตกหรือไม่
  • ขจัดคราบ: กำจัดรอยเปื้อนด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเฉพาะที่สอดคล้องกับรอยเปื้อนนั้นๆ
  • ทำความสะอาดด้วยน้ำเเละสบู่ที่มีค่าความเป็นกรดด่างระดับกลาง: ทำความสะอาดพรมทั้งสองด้าน ใช้สบู่ที่มีค่าความเป็นกรดด่างระดับกลาง เเละถูด้วยมือ เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกออกจากเนื้อผ้า 100%
  • ล้าง: ล้างด้วยน้ำสะอาด เพื่อกำจัดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ยังอาจตกค้างอยู่ในพรม 
  • ปั่นแห้ง: พรมถูกนำไปม้วนด้วยระบบพิเศษเฉพาะ ที่จะไม่ทำให้เส้นใยพรมเสียหาย เเละไม่ทำให้พรมขาด เพื่อกำจัดน้ำส่วนเกินออก
  • อบแห้ง: ด้วยเครื่องอบผ้าที่ทันสมัย ความชื้นในพรมจะถูกกำจัดภายในเวลาอันรวดเร็ว
  • แปรง: หลังจากทำความสะอาดพรมเเล้ว ขนพรมจะถูกแปรงเพื่อให้พรมนุ่ม เเละไม่เกาะตัวเป็นก้อน

ในกรณีที่พรมต้องซักแห้งเท่านั้น พรมจะถูกทำความสะอาดด้วยเปอร์คลอโรเอทิลีน 

ต้องซักพรมบ่อยเเค่ไหน?

เรามักใช้พรมในช่วงหน้าหนาวเท่านั้น เพราะช่วยให้บ้านอุ่น เเละเพิ่มความสวยงามให้แก่บ้าน การดูเเลรักษาพรมที่ถูกต้องคือ ควรดูดฝุ่นสัปดาห์ละครั้ง เเละกำจัดรอยเปื้อนด้วยมือ โดยใช้น้ำสบู่ที่มีค่าความเป็นกรดด่างปานกลางด้วยวิธีที่ได้กล่าวไปก่อนหน้า

เมื่อหมดหน้าหนาวเเล้ว สิ่งที่ควรทำคือ ใช้บริการซักแห้งส่งถึงบ้านของมิสเตอร์เจฟฟ์ เพื่อทำความสะอาดพรมอย่างล้ำลึก หลังจากที่ได้พรมสะอาดคืนมาเเล้ว ควรนำไปเก็บรักษาให้ดีระหว่างฤดูร้อน เพื่อให้พรมอยู่ในสภาพดี เเละพร้อมใช้เมื่อฤดูหนาวปีต่อไปมาเยือน

วิธีเก็บพรมที่ถูกต้อง

การเก็บรักษาพรมอย่างถูกต้องคือสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยป้องกันการหมักหมมของฝุ่นเเละไร เเละเพื่อไม่ให้พรมเสียหายหรือเสียทรงในช่วงที่เราไม่ได้ใช้ วิธีเก็บพรมที่ได้ผลดีที่สุดคือ ใช้ผ้าปูที่นอนเก่า:

  • ปูผ้าปูที่นอนลงบนพื้น เเล้วจึงปูพรมทับด้านบน ผ้าปูที่นอนที่ใช้ควรยาวกว่าความยาวของพรม
  • ม้วนพรมเเละผ้าปูที่นอนพร้อมกัน หลังจากนั้นจึงผูกหัวเเละท้ายของผ้าปูที่นอนด้วยเชือกเพื่อห่อพรมให้เเน่นหนา โดยผูกให้มีรูปร่างเหมือนลูกอม  
  • นำพรมที่ม้วนเเล้วไปใส่ในถุงใบใหญ่ หรือคลุมด้วยพลาสติก เพื่อการป้องกันที่เเน่นหนา เเละยังช่วยป้องกันฝุ่นเกาะ หรือของเหลวหกใส่พรมอีกด้วย 
  • เก็บพรมในบริเวณปราศจากความชื้น ควรวางพรมที่ชั้นบนของตู้เสื้อผ้า โดยวางในเเนวราบ เพื่อใม่ให้พรมเสียทรงเพราะน้ำหนักที่กดทับ

การทำความสะอาดพรมอย่างถูกวิธีไม่เพียงช่วยรักษาเนื้อผ้าเท่านั้น เเต่ยังยืดอายุการใช้งานให้นานที่สุดอีกด้วย 

หวังว่าบทความ คำเเนะนำวิธีทำความสะอาดพรมของเราจะเป็นประโยชน์ เเละหากคุณรับมือรอยเปื้อนบนพรมไม่ไหว ก็ใช้บริการรับส่งถึงบ้านของมิสเตอร์เจฟฟ์ได้เลย

คุณอาจสนใจ:

หากคุณถูกใจโพสวิธีซักพรมที่บ้านของเรา ก็อย่าลืมให้คะเเนนนะคะ!

เริ่มใช้ชีวิต The Good Good Life

ลงทะเบียนวันนี้
Banner image